ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะจังหวัดสมุทรปราการอีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับนายทรงชัย นกขมิ้น นายกอบ.ราชาเทวะ หลังงบประมาณการจัดซื้อเสาไฟกินรีผ่านสภาอบต.ราชาเทวะ ไปเมื่อวานนี้ กว่า 68 ล้านบาท
โดยนายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ทางสภา อบต.ราชาเทวะได้อนุมัติผ่านงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟฟ้ากินรี จำนวน 720 ต้น วงเงินงบประมารณ 68 ล้าน 4 แสนบาท ไปแล้วนั้น ขออธิบายว่าหน้าที่ของนายก อบต.มีหน้าที่นำเอาความต้องการของคณะกรรมการพัฒนาแผน ซึ่งนั่นคือความต้องการของประชาชนเอาเข้าสู่สภาเพื่อขอใช้เงินตามโครงการนั้น เมื่อสภามีมติแล้วก็หมดหน้าที่สภา ซึ่งเมื่อวานนี้ถ้าสภาไม่เห็นชอบเรื่องก็จบ แต่นี่สภาโยนเผือกร้อนมาให้ นายก อบต.คือการผ่านงบประมาณ แต่เมื่อเรื่องมาถึงตน ซึ่งตอนนี้จะเป็นอำนาจหน้าที่ตนแล้ว ถามว่าจะทำอย่างไรต่อ ตนก็ของชี้แจงว่า นายกฯ จะขอชะลอโครงการนี้ออกไปก่อน เพราะอยากให้รอผลการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ ทั้ง ปปป.,ปปช,ปปท.ที่เข้ามาตรวจสอบอยู่ในเวลานี้เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อใดผิดกฎหมาย ผิดระเบียบราชการ ถ้ามีการผิดกฎหมายจะไม่ให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเด็ดขาด แม้จะผ่านสภาแล้ว นี่คือหนึ่งในอำนาจ นายก อบต.ราชาเทวะ ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ผิด ก็ต้องเดินหน้าโครงการต่อ
สำหรับงบประมาณล่าสุดที่มีการอนุมัติ มีหมู่ไหนที่ขอเสาไฟมากที่สุด นายธงชัยบอกว่า หมู่ 15 ขอมากสุด ซึ่งได้ไปประมาณ 200 ต้น ทั้งหมดมาจากแผนพัฒนาที่มาจากประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการ
นายทรงชัย บอกต่ออีกว่า ประเด็นเรื่องที่ตนถูกตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรณีเงินที่จะต้องเรียกคืนจากผู้รับเหมา จำนวน 67 ล้าน ที่เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกโจมตี นั้นตนคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ สตง.บางกลุ่มที่เคยมาเสนอขาย กล้องวงจรปิด CCTV เมื่อปี 2556 โดยมีข้อเสนอว่า ถ้าซื้อกล้อง CCTV จะไม่ได้รับการตรวจสอบ ตนเองก็ไม่เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่สตง. มีพฤติการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งจะต้องนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังปปช.ให้ตรวจสอบ
กรณีกระแสที่ว่าถ้านำเงินไปใช้ส่วนอื่นที่มีความจำเป็นมากกว่าที่จะนำไปซื้อเสาไฟ นายทรงชัยชี้แจงว่าไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการของหน่วยงานอื่นปัญหาเรื่อง covid ควรเป็นหน้าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุข ถ้าอบต. เข้าไปจัดการเรื่องดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้ อีกทั้ง มั่นใจคนในชุมชนไม่ด่า เพราะเขาอยากได้ คนที่อื่นเดือดร้อนแทน เป็นความเห็นของคนที่อื่น
นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ทางสภา อบต.ราชาเทวะได้อนุมัติผ่านงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟฟ้ากินรี จำนวน 720 ต้น วงเงินงบประมารณ 68 ล้าน 4 แสนบาท ไปแล้นั้น ขออธิบายว่าหน้าที่ของนายก อบต.มีหน้าที่นำเอาความต้องการของคณะกรรมการพัฒนาแผน ซึ่งนั่นคือความต้องการของประชาชนเอาเข้าสู่สภาเพื่อขอใช้เงินตามโครงการนั้น
สำหรับเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี ที่ผ่านมติสภา อบต.ราชาเทวะ ทั้งหมด
ส่วนประเด็นที่มีคนสงสัยว่าเพราะเหตุใด คนสนามสกุล “นกขมิ้น” ถึงได้เป็นผู้บริหาร อบต.ราชาเทวะ ถึง 4 คน นายทรงชัยระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการบริหารงาน เพราะเมื่อตนมาดำรงตำแหน่ง นายก อบต.ย่อมจะต้องเอาคนที่ตนไว้วางใจมาร่วมทำงานด้วย ซึ่งก็ไม่ต่างจากการบริหารงานระดับประเทศ ที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเลือกคนที่ไว้ใจ และรู้ว่าทำงานด้วยได้ เข้ามาร่วม ครม.
เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้บริหาร อบต.ราชาเทวะ พบว่ามีคนนามสกุล “นกขมิ้น” ถึง 4 คน ประกอบด้วย นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล / นายประสิทธิ์ นกขมิ้น ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล/นายอภิชาติ นกขมิ้น รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ / นายจาตุรนต์ นกขมิ้น ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ
ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรี พลังงานโซล่าร์เซลล์ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ โดยเห็นว่าการจัดซื้อดังกล่าว อาจส่อไปในทางทุจริต และไม่มีความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน เนื่องจากบางส่วนมีการติดตั้งในซอยที่เป็นป่าหญ้ารกทึบ มีเสาระยะสั้นแต่ละต้นถี่เกินไป และอาจเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย
เมื่อตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าว พบว่า เสาไฟกินรีแต่ละต้นราคาเฉลี่ยต้นละ 95,485 บาท โดยมีการประมูลติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันกว่า 8 ปีแล้ว ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 12 สัญญา มูลค่า 1,079,291,000 บาท โดยมีเสาไฟกินรีระบบโซล่าร์เชลล์ติดตั้งแล้วกว่า 11,339 ต้น ขณะที่ อบต.ราชาเทวะมีพื้นที่เพียง 31 ตร.กม.คิดเป็น 19,375 ไร่ (ในจำนวนนี้ใช้เป็นพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 9,451 ไร่) จะเหลือเป็นพื้นที่เพียง 9,924 ไร่เท่านั้น มีครัวเรือนเพียง 15,185 หลังคาเรือน หากจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเสาไฟกินรี 1 ต้นจะเท่ากับ 1 ครัวเรือนเลยทีเดียว