วันที่ 23 มิถุนายน 2564 นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอแจ้งความคืบหน้าในการจัดสรร วัคซีน Sinopharm เพิ่มเติมตามนี้ครับ
1) การจัดสรรในชุดแรก ที่ได้จัดสรรให้ไปของคนที่ยื่นความจำนงในวันที่ 14-15 มิถุนายนแล้ว วันนี้จะประกาศเพิ่มเติมโดยดูผู้ขอมาทั้งหมด 14-18 มิถุนายน โดยจัดลำดับก่อนหลังด้วยนโยบายเดิมครับ เว้น อปท. (เพราะอยู่ระหว่างประสานให้ท้องถิ่นจัดกลุ่มลำดับความสำคัญมาด้วย และเราจะทยอยจัดสรรให้ โดยจะไม่ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว) และ บริษัทประมาณ 80-90 บริษัท ที่รวมกันขอในสภาอุตสาหกรรมและแยกยื่นขอมาเองไม่ทัน (กลุ่มนี้ทางสภาอุตสาหกรรม กำลังทำงานใกล้ชิดกับทางไอทีราชวิทยาลัย เพื่อจับแยกให้แต่ละบริษัทเข้ามาทำความตกลงกันเองได้….ไม่โดนเทนะครับ)
2) ทางราชวิทยาลัย ได้กำหนด กลุ่ม”โอกาสน้อย” ที่จะได้รับวัคซีนที่ทุก ๆ คน บริจาคไว้ 10% แล้ว โดยมีห้ากลุ่มคือ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียง/บ้าน พระนักบวช ชุมชนแออัด/หาบเร่แผงลอย/ร้านอาหาร/ร้านค้าริมถนน และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดหมายวัคซีนหลัก เมื่อทราบจำนวนแต่ละกลุ่มชัดเจนขึ้น ทางราชวิทยาลัยฯ จะหาสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่มีใจอาสาช่วยดำเนินการฉีดให้กับคนกลุ่มต่าง ๆ นี้ ซึ่งต้องร่วมกันทำกุศลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ กับ คนในกลุ่มนี้ ในทุก ๆ จังหวัด
3) ทางราชวิทยาลัย โดยคณะกรรมการจัดสรรฯ จะจัดสรรให้ทุก ๆ องค์กรต่อไป เมื่อได้ทราบกำหนดเวลาและจำนวนโดสวัคซีนที่จะมาในเดือนกรกฎาคม/สิงหาคม และคาดว่าน่าจะจัดสรรให้ได้ครบทุกบริษัท/องค์กรภายในเดือนสิงหาคม เป็นอย่างช้า เว้นแต่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อาจจะไม่ได้ทั้งหมดตามที่ขอมา เพราะทางราชวิทยาลัยฯ ต้องขอดูกลุ่มที่ท่านจัดลำดับความสำคัญมาก่อน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับการจัดสรรวัคซีนหลักของประเทศ
4) การจัดสรรให้บุคคลทั่วไป ขอเวลาสักสองสามอาทิตย์หลังเริ่มการฉีดให้กับกลุ่มองค์กร/นิติบุคคลแล้ว เพื่อดูระบบและมาตรฐานของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่จะรับคนทั่วไปธรรมดาที่จะเดินเข้าไปขอรับวัคซีนโดยจ่ายเงินเอง (รายละเอียดว่าทำไมต้องดูระบบและมาตรฐานนั้นได้พูดไว้ในหลายเวทีแล้ว)
จากที่ติดตามระบบและวิธีการเข้ามาลงทะเบียน โอนเงิน และลงนามทำความตกลงร่วมกันนั้น ต้องขอโทษที่มีหลาย ๆ ท่านทำได้ไม่สะดวกนัก ซึ่งก็ได้ปรับกันไปได้ระดับหนึ่ง แต่ยังมีปัญหาหลัก ๆ ที่ยังพบดังนี้ครับ 1.อีเมล์ผิด 2.อีเมล์เด้งกลับ หรือไปอยู่ใน junk mail 3.ผู้บริหารสูงสุด ที่ต้องลงนามไม่ได้เข้าไปทำเอง คนประสานใช้ Username password ของผู้ประสาน ซึ่งใช้ทำขั้นตอนนี้ไม่ได้ 4.ทางราชวิทยาลัยตรวจสอบการโอนเงินช้า ซึ่งมีหลายสาเหตุ เช่น บริษัทโอนมามากว่าหนึ่งยอด เวลาโอนค่ำเงินที่เข้าเช้าเป็นคนละวัน ต้องค่อย ๆ ตรวจ หรือโอนใช้เช็ค วันเวลาที่จ่ายกับที่เงินเข้าคนละวันตรวจสอบใช้เวลามากอยู่ ทั้งหมดนี้ทางการเงินราชวิทยาลัย ได้ปรับส่วนที่ปรับได้ เพื่อให้การตรวจสอบเร็วขึ้นในคนที่จะโอนมาโอกาสต่อไปครับ
และประเด็นสุดท้าย ที่ทำให้หลังบ้านทำงานหนักมากคือ การขอเปลี่ยนจำนวน ซึ่งผมไม่สามารถให้เปลี่ยนได้ เว้นแต่เห็นว่า ลงจำนวนผิดโดยไม่ตั้งใจ การจะขอเพิ่มหรือลดจำนวนขอจัดสรร…..ขณะนี้ทำไม่ได้นะครับ กรุณาอย่าถาม อย่าขอมา เพราะจะทำให้ไม่สามารถตอบคำถามอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ทุกท่านลงทะเบียนลงนามทำข้อตกลงได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณ :Nithi Mahanonda