วันที่ 11 ก.ค.2564 ความคืบหน้ากรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ “ศบค.” ออกประกาศห้ามประชาชนในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ จังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ออกนอกเคหะสถาน หรือ “เคอร์ฟิว” ในระหว่างเวลา 21.00 -04.00 น. ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน พร้อมมาตรการล็อกดาวน์กิจการ/กิจกรรมต่างๆ มีผลบังคับใช้วันที่ 12 ก.ค. 64 นี้
โดยแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย ว่า ในวันจันทนร์ที่ 12 ก.ค. 64 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นัดประชุมวงเล็ก ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับทีมเศรษฐกิจ อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เพื่อออกมาตรการเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์และประกาศเคอร์ฟิว ตามประกาศฉบับที่ 27
ส่วนมาตรการเยียวยาประชาชนที่จะออกมาเบื้องต้นอาจมีการแจกเงินเยียวยาให้ผู้ที่ขาดรายได้ รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่อยู่ใน 10 จังหวัด หรือจะช่วยเหลือเป็นวงกว้างทั่วประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ จัดทำข้อเสนอทั้งหมดมาให้พิจารณาในวันที่ 12 ก.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบในวันที่ 13 ก.ค.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มาตรการเยียวยาที่จะออกมาในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้เงินจากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน