ไทยฉีดวัคซีนทะลุเป้า เด็กนักเรียนได้รับ “วัคซีนไฟเซอร์” แล้ว 4 หมื่นคน!

ไทยฉีดวัคซีนทะลุเป้า เด็กนักเรียน ได้รับ "วัคซีนไฟเซอร์" แล้ว 4 หมื่นคน!

ตัวเลขการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ณ เวลานี้ต้องบอกว่าทะลุเป้าที่รัฐบาลได้วางไว้ว่า เดือนตุลาคมจะฉีดให้ได้ 50 ล้านโดส หลังจากตัวเลขล่าสุดวันที่ 6 ตุลาคม ยอดฉีดวัคซีนสะสมอยู่ที่ 56,656,247 โดส และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายใหญ่ฉีด 100 ล้านโดสภายในปีนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งปัจจัยสำคัญก็มาจากจำนวนวัคซีนที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ เราจึงได้เห็นภาพการฉีดเข็มบูสเตอร์โดส หรือเข็ม 3 ให้กับบุคลากรการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่สำคัญยังมีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน รองรับการกลับเข้าไปใช้ชีวิตในรั้วการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจะกลับมาเปิดเรียนแบบออนไซต์ หรือ การเรียนการสอนรูปแบบปกติ ในภาคเรียนที่ 2

โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธาน Kick off ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ตามสโลแกน “สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดภาคเรียนที่ 2” ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษจิกายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน

2021 10 06 12 52 47

5rG8zcxT 1633494812427

เด็กนักเรียนนักศึกษาช่วงอายุ 12-18 ปี ทั่วประเทศ ที่ได้เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ในครั้งนี้ ครอบคลุมนักเรียนไทยและนักเรียนชาวต่างชาติ สังกัดภาครัฐ เอกชน อาชีวะศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า เช่น ปวช. ปวส. ฯลฯ ซึ่งปัจจุบัน มีจำนวนทั้งสิ้น 5.048 ล้านคน มีนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้ฉีดวัคซีนจำนวน 3 ล้านกว่าคน หรือ คิดเป็น 80% ส่วนกรณีนักเรียนที่อายุเกิน 18 ปี กระทรวงศึกษาธิการอนุโลมให้ฉีดซัคซีนเหมือนเพื่อนในชั้นเรียนได้ สำหรับการฉีดวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข ได้เริ่มฉีดให้เด็กนักเรียนในสถานศึกษาพื้นที่สีแดงเข้ม ที่มีจำนวน 15,465 แห่ง ใน 29 จังหวัดก่อน หลังจากได้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกจากสหรัฐฯ จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนได้ทยอยเข้ามาเพิ่มเติมในวันที่ 6 ตุลาคม 1.5 ล้านโดส สัปดาห์ถัดไปอีก 1.5 ล้านโดส ดังนั้น 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ จะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาทั้งหมด 5 ล้านโดส เพียงพอกับความต้องการฉีด

ข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม มีเด็กนักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วประมาณ 4 หมื่นคน ซึ่งแนวทางการฉีด เด็กนักเรียนผู้หญิง จะฉีด 2 เข็ม ระยะห่างระหว่างเข็ม 1-2 อยู่ที่ประมาณ 4 สัปดาห์ ขณะที่นักเรียนชายจะฉีด 1 เข็มก่อน เพื่อติดตามข้อมูลและประเมินผลข้างเคียง ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ด้านนักเรียนที่ไม่เข้ารับวัคซีน จะไม่มีผลกระทบใดๆ เเพราะเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการคือ 1.แต่ละโรงเรียนต้องฉีดอย่างน้อย 70% ของจำนวนนักเรียน 2.ครู บุคลากรในโรงเรียน ฉีดมากกว่า 85%

1633499690716

ทั้งนี้นอกจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการแล้ว การฉีดวัคซีนให้กับเด็กยังมีในส่วนของ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ผุดโครงการ “VACC 2 School” ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับเด็กนักเรียน อายุระหว่าง 10-18 ปี จำนวน 108,319 คน จาก 132 โรงเรียน ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน และจะฉีดจนถึงกลางกลางเดือนตุลาคมนี้

จากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนทั้งกับประชาชนทั่วไปและเด็กเยาวชน บวกกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดโดยรวมของประเทศลดลง กิจการและกิจกรรมได้รับการผ่อนปรนให้เปิดมากขึ้น การท่องเที่ยวก็ทยอยเปิดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติม จึงนับเป็นสัญญานบวกของประเทศไทยในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ที่เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์