กรณี นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ หรือ พันซ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในคดีฉ้อโกงและผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จากกรณีเปิดร้านค้าออนไลน์ Phonebymint หลอกขายโทรศัพท์ไอโฟน 7 ในราคา 5,000 บาท หวังจะได้เอาไปเรียนออนไลน์ แต่ไม่ส่งของให้และบล็อคการติดต่อ เป็นเหตุให้ ด.ช.ก้อง วัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จนมีอาการเครียด เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา จนคดีนี้ทางนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ผบ.ตร.ให้ความสนใจ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน และสั่งการเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามคนร้าย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ถูกหลอกลวงด้วย กระทั่งสามารถจับกุม 2 วัยรุ่นสาว ที่เป็นคนรับจ้างเปิดบัญชีได้ ส่วนนางสาวพิยาดา ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ได้หลบหนีการจับกุม และมีเบาะแสว่าเดินทางหลบหนีไปในพื้นที่ภาคเหนือ
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (28 กันยายน 64) นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความเพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กับ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทันที พร้อมนำตัวไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ที่อาคารกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ซึ่งนางสาวพิยดามีท่าทีเรียบเฉย ทั้งนี้เบื้องต้นทราบว่านางสาวพิยดา ไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.ลำปาง และเปลี่ยมซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อหลบหนีการติดตามตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสืบสวนภาค 5 ได้ออกติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งประสานทนายเข้ามอบตัว
เวลาต่อมาในช่วง 14.00 น.ตำรวจสืบสวนภูธรเชียงใหม่ ได้นำตัวนางสาวพิยดา ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งขณะนำตัวไปนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสาวพิยดาในกรณีที่โกงน้องก้อง เด็ก ม.2 วัย 14 ปี จนเครียดเสียชีวิต และอยากจะบอกอะไรกับญาติผู้เสียชีวิตบ้าง ทางด้านนางสาวพิยาดามีสีหน้าเรียบเฉย และพูดเพียงว่าขณะนี้ไม่ขอตอบอะไร โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมสอบ โดยใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง จึงนำตัวผู้ต้องหาออกไปขึ้นรถเพื่อนำตัวเดินทางไปส่งมอบให้กับ สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ในชั้นการจับกุมนางสาวพิยดา ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยบอกเพียงว่าตนเองขายของออนไลน์จริง แต่ไม่ได้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางฝั่งทนายของผู้ต้องหาได้ขอเวลาเตรียมเอกสารเพื่อประกอบคำชี้แจง โดยขณะนี้ได้นำตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย ส่วนการประกันตัวนั้นเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ในชั้นสอบสวนของตำรวจ อยู่ที่ทางผู้กำกับการ สภ.นาหวาย จะพิจารณา หรือหากหมดเวลาช่วงควบคุมตัวของตำรวจ ก็ต้องนำตัวไปส่งฝากขังที่ศาล ซึ่งก็เป็นอำนาจของศาลจะพิจารณาอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากมีการกระทำผิดหลายพื้นที่ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบพบมี 3-4 คดี มีทั้งที่ออกหมายจับแล้ว และมีการร้องทุกข์เพิ่มเติมหลังมีถูกจับกุมนางสาวพิยดาได้ ซึ่งต้องมีการอายัดตัวไว้ดำเนินคดีให้ครบถ้วน ส่วนการตรวจสอบผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ต้องดูว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอในการออกหมายจับหรือไม่ หากมีต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป.