ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (22 กันยายน) พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันติดตามตัวคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวมาทำการสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ทราบชื่อนายธเนศ บุญเสริมทรัพย์ อายุ 45 ปี เดินทางมาพร้อมด้วย ผู้เป็นแม่วัย 75 ปี
นายธเนศ คนขับแท็กซี่ผู้ก่อเหตุ ได้บอกว่า ตนเป็นหลานแท้ ๆ ของบิ๊กป้อม สมัยเด็กพาตนนั่งรถถัง เมื่อผู้สื่อข่าวถามมาก ๆ เข้านายธเนศ ก็บอกว่าอย่าเชื่อมากพวกแท็กซี่ส่วนมากชอบโม้ แต่สำหรับตนของจริง ในส่วนที่พูดและกระทำในวันนั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ตนขับแท็กซี่มาหลายปี ในวันนั้นตนแค่จีบ ๆ เขาเฉย ๆ ในแนวสนุกสนานหยอกล้อเล่น ส่วนที่ตนไม่ทอนเงินให้เขานั้นเพราะขาดค่าน้ำมันก็เลยไม่ทอนให้
พ.ต.ท.สุวิชา ชั้นงาม รอง ผกก.จร. ได้กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับว่าเป็นคนในคลิปจริง ซึ่งกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์มาตร 66 / 5 ผู้ใดเรียกค่าโดยสารเกิดกำหนด ซึ่งในมิเตอร์ขึ้นค่าบริการแค่ 47 บาท แต่ผู้ก่อเหตุเรียกไป 100 บาท มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท และใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพ ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งในวันนี้ได้เชิญทางขนส่งจังหวัดสมุทรปราการมาร่วมดำเนินการสอบสวนด้วย เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยินยอมเสียค่าปรับ แต่ขณะนี้ทางผู้ก่อเหตุได้บอกว่ายังไม่มีเงินเสียค่าปรับ
ด้านผู้เป็นแม่ ได้บอกว่า ลูกชายเคยถูกทำร้ายถูกตีที่ศีรษะมา 2 ครั้งตั้งแต่สมัยวัยรุ่น หลังจากนั้นมาก็มีอาการผิดปกติชอบกินกาแฟที่เป็นซอง ๆ วันละ 5-6 ซองและก็กินเครื่องดื่มชูกำลังอีก 2-3 ขวด หมอบอกว่า เหมือนกับเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เหมือนคน 2 บุคลิก
ด้านนายธิวัฒถ์ บ่มไล่ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งทางบกจังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า เบื้องต้นคนขับรถแท็กซี่ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับเท่าไหร่ แต่ถ้ารับสารภาพและไม่มีเงินค่าปรับพนักงานสอบสวนต้องส่งดำเนินคดีไปทำการเปรียบเทียบปรับในชั้นศาลต่อไป
