‘กรมอนามัย’แจงรายละเอียด มาตรการคุมเข้ม เตรียมพร้อมเปิดเทอม 2

กรมอนามัยแจงรายละเอียดมาตรการคุมเข้ม เตรียมพร้อมเปิดเทอม 2 นักเรียนได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่า 85% พื้นที่เสี่ยงตรวจATK สัปดาห์ละ 1-2ครั้ง

ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงเรื่อง “มาตรการ Sandbox ในโรงเรียน sandbox safety zone in school” ว่า จากข้อมูลการติดเชื้อในเด็กวัยเรียนวัยรุ่น 6-18 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 11 กันยายน 2564 ติดเชื้อสะสม 129,165 ราย กว่า 90% เป็นคนไทย เสียชีวิตสะสม 15 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้เมื่อดูการติดเชื้อในเด็ก แบ่งเป็นรายเดือนพบว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคมมีแนวโน้มติดเชื้อมากขึ้นแม้ว่าจะไม้ได้เปิดเรียนก็ตาม โดยส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัวและการเดินทางสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน ส่วนการฉีดวัคซีนในกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา ข้อมูล 5 กันยายน ฉีดแล้ว 897,423 ราย ยังไม่ได้ฉีด 118,889 ราย ส่วนกลุ่มเด็ก 12-18 ปี ซึ่งมีการฉีดในคนที่มีโรคประจำตัวนั้น ข้อมูลเมื่อวันที่ 11 กันยายน ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 จำนวน 74,932 ราย เข็ม 2 จำนวน 3,241 ราย

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า จากการนำร่องเปิดเรียน on site ในโรงเรียนประจำ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขที่ตั้งไว้ พบว่าเป็นไปอย่างดี โรงเรียนแม้พบผู้ติดเชื้อ แต่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยของโรงเรียน เพราะไปสัมผัสคนติดเชื้อนอกโรงเรียน และตรวจจับได้ ดังนั้นจึงหารือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยถึงแนวทางเตรียมการจัด sandbox safety zone in school ในโรงเรียนไปกลับ เพื่อรองรับการเปิดเรียนให้สอดรับกับสถานการณ์ในพื้นที่ และแนวทางของ ศบค. ดังนี้

1. พื้นที่สีเขียว มี 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มข้นของสถานศึกษา โดยบุคลากร นักเรียนได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่า 85% มีการประเมินความเสี่ยงอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์
2.พื้นที่สีเหลืองมาตรการคงตามพื้นที่สีเขียว แต่เพิ่มการสุ่มเฝ้าระวังด้วยการตรวจ ATK 1 ครั้ง ใน 14 วัน ประเมินความเสี่ยง 1 วันต่อสัปดาห์
3.พื้นที่สีส้ม ต้องปฏิบัติตามข้อ 1 และข้อ2 และจะเพิ่มการประเมินความเสี่ยงบุคคลถี่ขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
4. พื้นที่สีแดง ต้องปฏิบัติตามข้อ 1-2 และเพิ่มมาตรการเข้ามาอีก 3 ข้อ คือ ให้สถานประกอบกิจการกิจกรรมรอบสถานศึกษาระยะ 10 เมตร ต้องผ่านการประเมิน covid free setting ต้องจัด school pass ครูและนักเรียน มีการประเมินตนเอง 3 วันต่อสัปดาห์ หรือประวัติการได้รับวัคซีน หรือประวัติที่เคยติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน และต้องจัดกลุ่มนักเรียนต่อห้องไม่ให้แออัด ไม่เกิน 25 คน ต่อขนาดห้องเรียนปกติ ส่วนการตรวจ ATK 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ รวมถึงการเข้าถึงวัคซีนนั้น นักเรียนจะได้รับเพิ่มขึ้นตามมาตรการของกรมควบคุมโรค
5. พื้นที่สีแดงเข้ม ต้องทำมาตรการทั้งหมดให้ครบถ้วน ต้องตรวจ ATK 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และการประเมินความเสี่ยงบุคคลต้องทำทุกวัน ทั้งครู นักเรียน บุคลากร

สำหรับ 7 มาตรการเข้มข้นของสถานศึกษา กรณีโรงเรียนไป-กลับ คือ 1. สถานศึกษาประเมินความพร้อมในการเปิดเรียนผ่าน Thai stop covid plus และรายงาน ติดตามผลผ่าน MOECOVID ของกระทรวงศึกษาฯ 2. ทำกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ พยายามไม่ให้สัมผัสข้ามกลุ่ม 3. อาหารเน้นสุขาภิบาลอาหาร 4.การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามมาตรฐาน เพราะหลายกรณีที่พบติดเชื้อในโรงเรียนเกิดจากความแออัดให้องเรียนโดยเฉพาะป้องปรับอากาศ 5. จัด School Isolation และมีแผนเผชิญเหตุ โดยร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่ มีการซักซ้อมด้วย 6.ควบคุมการเดินทางจากบ้าน–โรงเรียนให้ปลอดภัย 7. จัด School Pass ทั้งครูและนักเรียน ที่ต้องมีผลการประเมินความเสี่ยงบุคคล ผลการตรวจ ATK หรือประวัติการได้รับวัคซีน หรือประวัติที่เคยติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน และที่สำคัญการจะเปิดเรียนต้องได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครก่อน

สำหรับการสนับสนุนชุดตรวจ ATK นั้น นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า มีการสนับสนุน 2 ส่วน 1. โดยภาพรวม สปสช.ได้จัด ATK 8.5 ล้านชุดกระจายไปยังจังหวัด ผ่านระบบสถานพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งสถานพยาบาลในพื้นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขเตรียมความพร้อมร่วมกับโรงเรียน ก่อนเปิดเรียน ครู นักเรียนที่เสี่ยงก็สามารถรับ ATK ได้ 2.พื้นที่ร่วมกันจัดหา เช่น มีการหารือร่วมกันของคณะกรรมการโรงเรียน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกองทุนสุขภาพพื้นที่ ในการนำงบฯ มาสนับสนุนการดำเนินการของโรงเรียนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกันของ โรงเรียน ท้องถิ่น ผู้ปกครอง