สธ.ขออย่าด่วนกังวล หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

สธ.ขออย่าด่วนกังวล ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดขึ้น คงต้องจับตาต่อเนื่องว่าจะเป็นอย่างไร!

ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น 16,031 ราย ซึ่งตัวเลขที่แกว่งตัวขึ้นน่ากังวลหรือไม่ว่า คงต้องจับตาต่อเนื่องไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไร เพราะแกว่งตัวขึ้นวันเดียว ฉะนั้นอย่าเพิ่งกังวลใจไป เมื่อเราปรับมาตรการตั้งแต่ 1 กันยายน เราดูตัวเลขผู้ติดเชื้อมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อครบ 2 สัปดาห์ การจะพิจารณาเปิดกิจกรรมหรือกิจการเพิ่มเติมหรือไม่ ตัวเลขเหล่านี้มีผลทั้งสิ้น ส่วนที่หลายคนกังวลว่าเราตรวจเชิงรุกน้อยลงหรือไม่นั้น เราพิจารณว่าหากมีคลัสเตอร์ เราก็จะตรวจเชิงรุก แต่ถ้าในช่วงการระบาดแนวโน้มลดลง ผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละจุด อาจจะไม่มีผู้สัมผัสในวงที่เยอะมากเหมือนช่วงขาขึ้น ทำให้การตรวจน้อยลงตามไปด้วย แต่ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจัดระบบเฝ้าระวังพิเศษ สุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง โดยฉพาะแรงงานต่างด้าว

สำหรับตัวเลขการฉีดวัคซีน วันที่ 8 กันยายน เพิ่มขึ้น 713,454 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 338,105 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 372,592 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 2,757 ราย จำนวนฉีดวัคซีนสะสมอยู่ที่ 38,174,738 โดส โดยเข็มที่ 1 จำนวน 26,292,211 ราย คิดเป็นร้อยละ 36.5 ฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 11,272,593 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.6 ส่วนตัวเลขการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ขณะนี้ฉีดไปแล้ว 948,868 โดส

ด้านตัวเลขการฉีดวัคซีนของอาเซียน ฉีดรวม 285,082,158 โดส อันดับ 1 อินโดนิเซีย ฉีดไปแล้ว 108,916,110 โดส อันดับ 2 ไทย 37,461,284 โดส อันดับ 3 มาเลเซีย 37,071,789 โดส อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ 36,646,852 โดส และอันดับ 5 เวียดนาม 22,675,644 โดส

นายแพทย์ฉเวตสรร ยังชี้แจงถึงการบริการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 6 แสนโดส โดยยืนยันว่า วัคซีนไม่มีสูญหาย และได้ใส่ใจเพื่อไม่ให้สูญเสีย ขณะนี้การฉีดเข็มกระตุ้นให้กลุ่มบุคลากรการแพทย์น่าจะครบถ้วนแล้ว อาจจะมีตกหล่นอยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ที่เหลืออีก 6 แสนโดส เราได้กระจายไปฉีดเป็นเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ไม่ได้เก็บไว้ส่วนกลาง พร้อมยืนยันจะไม่ปล่อยให้วัคซีนหมดอายุ และไม่ให้วัคซีนหายไปไหนอย่างแน่นอน