นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมแถลงข่าวที่รัฐสภา ภายหลังการอภิปรายของฝ่ายค้าน
โดย นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนแบบไขว้สูตร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ติดตามการฉีดวัคซีนแล้วว่ามีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโควิดได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งได้รับคำพิจารณาจากคณะอาจารย์แพทย์ ถึงประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค ซึ่งอยู่ระหว่างการทำเอกสารในการตีพิมพ์วารสารวัคซีน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดกระทรวงสาธารณสุขจึงยังคงสั่งซื้อซิโนแวค ตรรกะง่าย ๆ ซึ่งผลการวิจัยบอกว่าการต่อสู้กับสายพันธุ์เดลต้าหากใช้วัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม แล้วตามด้วยแอสตร้าฯ อีก 1 เข็มใน 3 สัปดาห์จะให้ผลพอ ๆ กับแอสตร้าฯ 2 เข็ม เพราะถ้าเรารอแค่แอสตร้าฯอย่างเดียว หากสมมุติว่าได้ แอสตร้าฯ มา10ล้านโดส ก็ทำให้ฉีดได้แค่ 5 ล้านคนเท่านั้น ถ้าสั่งซื้อซิโนแวค เข้ามาเพิ่มจะทำให้ฉีดคนได้มากขึ้นเป็น 2 เท่า
นี่คือตรรกะพื้นฐานง่ายๆถ้าคิดไม่ออกก็ไม่รู้จะบริหารบ้านเมืองไปได้อย่างไร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อซิโนแวคมาเพิ่ม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็มีแผนที่จะฉีดกระตุ้นให้ประชาชนในเข็มที่ 3 อยู่แล้วด้วยซึ่งอยู่ในแผนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้ฉีดสูตรไขว้ให้กับประชาชนแล้วกว่า 1 ล้านคนและยืนยันความปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีเห็นมีใครมีปัญหา ขออย่าพูดให้ประชาชนสับสน การตัดสินใจในยุคที่สถานการณ์วิกฤตต้องตัดสินใจเร็วหากรอ เอกสารยืนยันรับรอง 6 เดือนถึง 1 ปีนั้นอาจจะทำให้ชีวิตประชาชนเสียหายมากกว่า
ขณะที่นพ.โอภาส ยืนยันว่าวัคซีนทุกยี่ห้อเมื่อเจอกับสายพันธุ์เดลต้าทำให้ประสิทธิภาพลดลงทุกตัวแต่ยังคงมีประสิทธิภาพลดอัตราการบาดเจ็บหนักและล้มตาย จึงใช้การค้นพบของนักวิจัยทีมแพทย์เรื่องการใช้สูตรไขว้ของวัคซีนจะทำให้ฉีดได้เร็วมากยิ่งขึ้นย้ำว่าองค์การอนามัยโลกให้การรับรองทุกยี่ห้อมีความปลอดภัย และล่าสุดการฉีดวัคซีนทั่วประเทศไปแล้วจำนวนกว่า 32 ล้านโดส ยังไม่มีรายใดที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่ามีผลเสียชีวิตจากวัคซีนแม้แต่รายเดียว และจากนี้ต่อไปจะใช้สูตรไขว้ในการฉีดให้กับประชาชนเป็นหลัก นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การจ่ายยาฟ้าทะลายโจร ให้ผู้ป่วยให้ทันทีเป็นการปรับแนวทางการรักษาให้ประชาชนเข้าถึงยาได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น
