วันนี้ 13 ส.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมรุ วัดวังเคียน ตำบลนางลือ อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ญาตินำร่างสาว วัย 39 ปี ซึ่งกำลังท้องลูก 6 เดือน ชาวบ้านหมู่ 12 ต.นางลือ เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์แคมป์คนงานจังหวัดสมุทรสาคร ขอกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้ประมาณ 10 วัน และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564ที่ผ่านมา ส่วนสามียังถูกกักตัวอยู่ที่บ้านพักที่จังหวัดสมุทรสาคร ไม่สามารถมาร่วมงานศพได้ โดยร่างผู้เสียชีวิต “ซึ่งไม่ได้ทำการผ่านำทารกออก” ถูกนำมาส่งโดยรถกู้ชีพโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE นำขึ้นเมรุ และนำเข้าเตาเผาทันที แต่ก่อนจะจุดไฟ สัปเหร่อได้นำเครื่องเซ่น ประกอบด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน หมาก พลู มาทำพิธีบอกกล่าว ขอขมากรรม เนื่องจากศพตายทั้งกลมโดยปกติจะต้องทำการผ่าทารกออกแล้วนำไปฝัง ส่วนร่างของแม่จะทำการเผา เพราะความเชื่อโบราณที่ว่าถ้าเผาศพพร้อมกันโดยไม่ผ่าทารกออกวิญญาณแม่จะเฮี้ยน จะไปรบกวนสัปเหร่อ
ด้าน นายนิพลธ์ ปัญญาทร สัปเหร่อ ผู้ทำพิธี เปิดเผยว่า โดยปกติคนที่ตายทั้งกลมต้องแยกลูกออกจากแม่ ไม่งั้นจะเฮี้ยน เป็นความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ทำมาเคยผ่าหลายศพแล้ว จะทำให้เขาไม่มีแรงแค้น แต่ตอนนี้ยุคโควิดไม่มีใครผ่าให้ ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือขอขมากรรมเขา บอกเขาว่าเราต้องทำอย่างนี้ อย่าได้มีเวรกรรมต่อกัน อย่าได้อาฆาตแค้นต่อกัน คือเราทำตามหน้าที่ของเรา โดยปกติศพตายทั้งกลมต้องผ่านำทารกออกนำไปฝัง นำร่างแม่ไปเผา ส่วนตัวผมเคยเจอแรงๆหลายเคสแล้วคิดเพียงว่าเราไม่ได้เบียดเบียนเขา เราช่วยเขา คิดดีกับเขา เขาก็ไม่มากวนเราแถมบางทีมาช่วยเราอีก