“บึงกาฬ”ยังเข้ม ย้ำชัด15จังหวัดหากเข้าพื้นที่ ต้องกักตัว เว้นได้รับวัคซีนแล้ว

สวท.บึงกาฬ กรมประชาสัมพันธ์ ได้ระบุว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยถึงมาตรการในการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ณ ขณะนี้ (ข้อมูลล่าสุด ณ 19 มิถุนายน 2564) ว่า จากการแบ่งพื้นที่เป็น 4 ระดับ ของ ศบค. ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด, พื้นที่ควบคุมสูงสุด 11 จังหวัด, พื้นที่ควบคุม 9 จังหวัดและพื้นที่เฝ้าระวังสูง 53 จังหวัดนั้น โดยจังหวัดบึงกาฬ อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสูง จึงมีการกำหนดมาตรการในการเข้าบึงกาฬจากพื้นที่ทั้ง 4 ระดับ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในจังหวัดบึงกาฬ ดังนี้
1.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด (ได้แก่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ) ต้องมีหลักฐานในการเดินทางเข้าพื้นที่บึงกาฬ คือ 1.เอกสารรับรองผลการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง 2.หากท่านมีสมาร์ทโฟนให้ลงทะเบียนก่อนเข้าจังหวัด ที่ QR Code หรือที่ลิงค์ https://bkpho.moph.go.th/ssjweb/bkcovid/index.php…
-โดยให้แจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง แต่ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19
-สำหรับการกักตัว แบ่งได้เป็น 2 กรณี ได้แก่ 1. กรณีมีหลักฐานข้อ 1 และไม่มีประวัติเสี่ยง จะถือว่าท่านเสี่ยงต่ำ: ให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน 2. กรณีมีหลักฐานไม่ครบ หรือ มีประวัติเสี่ยง = จะถือว่าท่านเสี่ยงสูง: ต้องกักตัวที่สถานกักกันของจังหวัด 14 วัน คือ ม.ราชภัฏอุดรธานี ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ
ส่วนกรณีมีหลักฐาน คือ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน สามารถเดินทางมาได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไข คือ 1.ได้รับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 2 มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือ 2.ได้รับวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 1 มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
กรณีนักท่องเที่ยว ต้องผ่านการซักประวัติที่ด่านคัดกรองก่อนเข้าจังหวัด หากเสี่ยงสูง ต้องกักตัว 14 วัน

2.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 11 จังหวัด (ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง นครปฐม ปัตตานี เพชรบุรี สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี ยะลา นราธิวาส) ต้องแจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง แต่ทุกคนต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีน เงื่อนไขเช่นเดียวกับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

3.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด (ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา ระนอง ระยอง ราชบุรี สระแก้ว สมุทรสงคราม) ต้องแจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง จากนั้นเฝ้าระวังตัวเอง (ไม่ต้องกักตัว) และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด

4.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เฝ้าระวังสูง 52 จังหวัด (ไม่นับรวมบึงกาฬ) (ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตราด ตาก นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี พะเยา พังงา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี)
ต้องแจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง จากนั้นเฝ้าระวังตัวเอง (ไม่ต้องกักตัว) และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด
หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ 042 492 046 ต่อ 114 (ในเวลาราชการ) หรือ 061 205 3743 (นอกเวลาราชการ)

ขอบคุณ สวท.บึงกาฬ กรมประชาสัมพันธ์